การส่งเสริมการลงทุนเป็นนโยบายของรัฐเพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการผลิต
และการบริการในบางประเภทโดยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้กำหนดกรอบของ
ประเภทอุตสาหกรรมการผลิตและการให้บริการที่จะให้การส่งเสริม
หลักเกณฑ์การส่งเสริมฯ
- ต้องเป็นบริษัท สหกรณ์หรือมูลนิธิที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย
- มีขนาดการลงทุนขั้นต่ำไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านบาท
- มีมูลค่าเพิ่มของโครงการที่ขอรับการส่งเสริมไม่น้อยกว่า 20% ของรายได้
- มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนไม่เกิน 3:1
- มีระบบป้องกันสิ่งแวดล้อมที่เพียงพอ
- อนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นข้างมากหรือทั้งสิ้นได้ หากลงทุนใน กิจการอุตสาหกรรม และต้องเป็นบริษัทไทยกรณีลงทุนใน กิจการเกษตร เลี้ยงสัตว์ ประมง เหมืองแร่ และบริการตามบัญชีหนึ่ง ท้าย พรบ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ. 2542
- ต้องเป็นประเภทกิจการที่ประกาศให้การส่งเสริม ปัจจุบันมี 7 หมวด คือ หมวดการเกษตร หมวดเหมืองแร่โลหะขั้นมูลฐาน หมวดอุตสาหกรรมเบา หมวดอุตสาหกรรมยานยนต์เครื่องจักร หมวดอุตสาหกรรมอิเลคโทรนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า หมวดอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ พลาสติก และ กระดาษ หมวดอุตสาหกรรมบริการและการสาธารณูปโภค
สิทธิประโยชน์
สิทธิประโยชน์ที่ไม่เกี่ยวกับภาษี
- การอนุญาตให้นำช่างฝีมือและผู้ชำนาญการเข้ามาทำงานในประเทศ
- การถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน
สิทธิประโยชน์ทางภาษี
- การยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร
- การลดหย่อนอากรขาเข้าเครื่องจักร
- การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่เกิน 8 ปี นับแต่วันเริ่มมีเงินได้ครั้งแรก โดยจำนวนเงินภาษีที่ได้รับยกเว้นต้องไม่เกินกว่าจำนวนเงินลงทุนแต่ไม่รวมมูลค่าที่ดินและเงินทุนหมุนเวียน (ระยะเวลาที่ได้รับยกเว้นภาษีจะขึ้นอยู่กับสถานที่ตั้งของโรงงานตามพื้นที่ที่คณะกรรมการกำหนด) ยกเว้นกิจการที่คณะกรรมการกำหนดให้เป็นกิจการที่มีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อประเทศเป็นพิเศษ จะได้รับยกเว้นภาษีเป็นเวลา 8 ปีโดยไม่จำกัดวงเงินภาษีที่ได้รับยกเว้น
- เงินปันผลที่จ่ายจากกำไรสุทธิที่ได้รับยกเว้นภาษี
- การยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบที่นำเข้ามาผลิตเพื่อส่งออก
|